บุฟเฟ่ต์เนื้อระดับเทพ! กับร้าน Lady Butcher ในช่วงโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ราคาพิเศษ
|ร้าน Lady Butcher
เปิดทุกวัน
จันทร์-พฤหัส 16.00-23.00
ศุกร์-เสาร์ 11.00-23.00
อาทิตย์ 11.00-22.00
ตำแหน่งตั้ง ตามแผนที่ด้านล่าง หรือสามารถพิมพ์ชื่อ “Lady Butcher” ลงใน Google Map ได้เลย
ดู H.E.A.T. Point. ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
ร้าน Lady Butcher เป็นร้านขายเมนูที่เน้นเกี่ยวกับเนื้อวัว โดยใช้เนื้อวัวชั้นเยี่ยม มีหลายส่วนให้เลือกทาน
จากชื่อ มาจากเจ้าของร้านที่เป็นผู้หญิงนะ ส่วนเชฟในร้านก็ถือว่ามีฝีมือในการประกอบอาหาร โดยเฉพาะพวกเมนูเนื้อ ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้าน
ภาพหน้าร้าน
วันเวลาเปิดปิดร้าน
ได้การันตีจากอร่อยเลิศกับคุณหรีด
บรรยากาศในร้านทั่วไป จะเห็นเนื้อที่แช่อยู่ด้วย
เนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งแต่ละส่วนมีลักษณะที่แตกต่างกัน
ตอนนี้มีโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ราคาพิเศษ ในราคาเพียง 1,290 บาท/คน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) จากราคาปกติ 1,900 บาท นั่งทานได้ 90 นาที
ซึ่งในบุฟเฟ่ต์จะประกอบด้วย
-1- เนื้อสำหรับปิ้งเองหรือให้เชฟทำเป็นสเต็กให้ โดยให้เลือก 7 ส่วน 7 แบบ ตามความชอบของแต่ละคน ซึ่งเนื้อที่ใช้ เป็นเนื้อ A5 นำเข้าจากญี่ปุ่น คือ เนื้อ Hokkaido และเนื้อ Kampo
Out side
Brisket
Short Plate
Shoulder
Chuck Roll
Neck
Flank
ซึ่งสามารถขอได้เรื่อยๆ
Brisket
Out side
Short Plate
Shoulder
Flank
Neck
Chuck Roll
2 ผักสด เห็ด กระเทียม เพื่อนำไปย่าง สามารถขอได้เรื่อยๆ
เห็ดต่างๆ พวกนี้จะเอาลงปิ้งบนเตา กินแก้เลี่ยนได้อย่างดี
3 ซุป สลัด สปาเกตตี้ ซึ่งจะเสริฟปริมาณตามความเหมาะสมกับคนที่ไปทาน จำนวน 1 ชุด
สปาเกตตี้ Olio กับเบคอน
ซึ่งจะมีรสเผ็ดนิดหน่อย เมนูนี้อร่อย แก้เลี่ยนเนื้อได้
สลัดผัก
สปาเกตตี้คาโบนารา แสนเข้มข้น
ซุปฟักทอง ข้นเหนียว ฟักทองชัดเจนมาก
ซุปเห็ด ก็เห็ดแบบสุดๆ อร่อยดี
ถ้าเลือกปิ้งเอง จะมีกระทะเป็นหินภูเขาไฟ ตามภาพ
ได้เวลาลุยย่างเนื้อแต่ละส่วน
พลิกเนื้อ
ปิ้งอย่าให้นานเกิน เพื่อความหวานและความนุ่มที่มากขึ้น
เวลาทาน ร้านนี้จะทานกับเกลือและพริกไทย เพื่อให้ได้รสเนื้อแบบเต็มๆ
เนื้อส่วนใหญ่ๆ ก็ใช้พื้นที่มากหน่อย
ปิ้งให้พอดี ไม่นานจนเกินไป
แน่นอน ใส่พวกเห็ด กระเทียม ด้วย เพื่อกินพร้อมกัน
ถ้าไม่อยากปิ้งเอง ก็ให้เชฟทำให้ โดยมาเป็นรูปแบบสเต็ก ซึ่งเชฟย่างเนื้อได้อร่อยดี
ปิดท้ายด้วยเมนู A la carte คือขนมปัง และของหวานของร้าน
บางทีก็มีไวน์มาให้เราชิมเราซื้อด้วยนะ
รีวิว
สรุป
– ร้านนี้ถือว่าเด่นเรื่องเนื้ออย่างมาก มากินแบบ A la Carte ก็ยังคุ้ม
– บุฟเฟ่ต์เนื้อ 7 แบบ อาจไม่คุ้นชื่อและคิดไม่ออกว่ารสแบบใด ควรลองสั่งเพื่อทดสอบแต่ละอย่าง แล้วค่อยเลือกเนื้อที่เราถูกใจ
– ถ้าเทียบแล้ว ผมชอบ Frank เพราะมันไม่เยอะจนเกินไป
– เมนูอื่น พวกพาสต้า ซุป อร่อยกว่าที่คิดครับ ดังนั้นหากชุดเดียวไม่พอ ก็สั่งเพิ่มกันได้
– เวลานั่ง 90 นาที ก็ถือว่าเหมาะสม
– ราคาไม่รวมน้ำ ก็อย่าลืมราคาสั่งเครื่องดื่มเพิ่มด้วย
– การเดินทางถือว่าไกลจากตัวเมืองพอควร (คือแถวนนท์ที่จะเลยไปทางปทุมแล้ว) ไม่มีรถสาธารณะผ่าน ควรขับรถเข้ามาเป็นหลัก
สรุปผมว่าในราคา 1290 ก็คุ้มครับ อย่าลืมมาลองกันได้