ไปเรียนทำอาหารกัน กับ Sweets Cottage

ผมได้มีโอกาสไปเรียนทำอาหารที่ Sweets Cottage มาครับ

 

Sweets Cottage Academy เป็นสถาบันสอนทำอาหารโดยเน้นอาหาร หวาน และเครื่องดื่ม  โดยมีเป้าหมายหลักในการทำขายในเชิงธุรกิจ แต่ก็สามารถทำกินที่บ้านได้เช่นกัน

 

โดยสถาบันนี้ สามารถเข้ามาเรียนได้ แม้ไม่ได้มีพื้นฐานการทำอาหารมาก่อน โดยอาจารย์ของสถาบันจะทำการสอนอย่างละเอียด รวมถึงทริกต่างๆ เพื่อให้อาหารต่างๆ รสชาติดี และมีความสวยงาม

 

สถาบันนี้จะมีทั้งแบบคอร์สเรียนแบบส่วนตัว เหมาะกับผู้เริ่มเต้นทำเบเกอรี่  เจ้าของกิจการที่อยากเพิ่มเมนูร้าน และเป็นงานอดิเรกได้

 

นอกจากนี้ยังมีคอร์สระยะยาว โดยจะสอนทั้งภาคปฏิบัติ และภาคทฤษฎีอย่างต่อเนื่อง  โดยจุดประสงค์หลักเพื่อไปทำอาหารและเปิดร้านอย่างจริงจัง

 

 

โดยที่ผมไปเรียนครั้งนี้ เป็นคลาสส่วนตัว เรียนจำนวน 2 เมนูครับ

 

ไปดูกัน

 

 


ดู H.E.A.T. Point. ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า

 

สถาบันจะอยู่ตรงถนนเจริญราษฎร์ ใกล้โชวรูมรถโตโยต้า

 

สังเกตตรงหน้าซอย จะมีเจียงลูกชิ้นปลา

 

หน้าสถาบัน

 

 

เข้ามาจะเจอเค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ สามาถมาสอบถามรายละเอียดการเรียนได้

 

 

จุดนั่งรอเวลาเรียน

 

ในวันที่ผมไปเรียน มีคนมารอเหมือนกัน

 

มุมห้องทำอาหารชั้น 1

 

พวกวัตถุดิบ และอุปกรณ์ทำอาหารบางส่วน

 

ชั้นสอง จะเป็นห้องเรียนส่วนตัว โดยให้บรรยากาศเหมือนทำอาหารที่บ้าน

บรรยากาศในคลาส โดยอาจารย์จะคอยประกบนักเรียน และสอนการทำอาหารต่างๆ แบบกันเอง

 

 

มุมโซนเตาอบ

 

 

ผมเรียนตรงชั้น 3 ครับ เป็นโซนเรียนรวม (แต่อาจารย์ก็จะสอนเราแบบตัวต่อตัวนะ)

 

โดยอาจารย์จะเตรียมอุปกรณ์ และเครื่องปรุงพร้อม สำหรับการเรียน

 

 

เมนูแรกที่ผมเลือกเรียน คือ Maple Cheese Toast ซึ่งเป็นของหวานสไตล์โทสพร้อมทอปปิ้งต่างๆ แนวเดียวกับ Shibuya Honey Toast นั่นเอง

 

ทั้งนี้ ผมก็อธิบายบรรยากาศการเรียนคร่าวๆ นะครับ

 

 

โดยเริ่มต้น อาจารย์จะให้เราทำน้ำเชื่อมเมเปิ้ลไซรับเองเลย ไม่ต้องไปซื้อแบบสำเร็จมา

 

บางเครื่องปรุง ผมก็พึ่งทราบว่ามันเป็นอย่างไร และใช้อย่างไร โดยอาจารย์ก็จะอธิบายคุณลักษณะด้วย

 

โดยนี่คือแบะแซ หรือกลูโคสไซรับ ซึ่งจะทำให้เพิ่มความหนืดของของเหลวเป็นหลัก ทั้งยังมีรสหวานอีกด้วย

 

เมื่อใส่ส่วนผสม ก็จะต้มตั้งไฟให้พอเดือด ทั้งนี้ บางจุด อาจารย์ก็จะช่วยเราทำและอธิบายวิธีการทำต่างๆ ด้วย

 

โดยน้ำเชื่อมนี้จะต้องตั้งพักรอให้เย็นก่อน ระหว่างรอ ก็จะมาเริ่มทำส่วนของขนมปังกัน

 

 

แน่นอนว่าเครื่องปรุงก็มีเตรียมพร้อมไว้แล้ว

 

1 ในคำแนะนำของอาจารย์คือ เนยเค็มที่ใช้ จะใช้ยี่ห้อนี้ (เรียกสั้นๆ ว่าถังทอง) เป็นเนยที่มีความหอมโดดเด่นมาก ทั้งยังละลายในอุณหภูมิห้องช้าอีกด้วย

 

 

ขนมปังหลักๆ ก็สำคัญ ว่าจะใช้ของเจ้าไหน ซึ่งแต่ละเจ้ามีรสและคุณลักษณะที่แตกต่างกัน อาจารย์เสนอเจ้ายามาซากิ หรือนากามุระ ไม่ก็บิ๊กซี (ส่วนของแมคโครจะมีความแข็งไปหน่อย)

 

นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำในกรณีการเก็บรักษาวัตถุดิบด้วย

 

ก็จะต้องหั่นให้เป็นร่องๆ

 

จากนั้นก็คลุกส่วนผสม ทำเป็นเนยสำหรับทาขนมปัง

 

ทาทั้งหน้า หลัง และตามรอยหั่น

 

ทั้งนี้ สามารถแรพห่อพลาสติก แล้วเก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เพื่อนำมาอบในภายหลังได้

 

สุดท้ายก็เข้าเตาอบ ซึ่งควรเป็นระบบไฟบนล่าง และปรับอุณหภูมิได้

 

ทั้งนี้ จะทำการปิ้งราว 5 นาทีก่อน แล้วทำการพลิกขนมปังกลับ และปิ้งต่อ

 

ในระหว่างอบ ก็มาทำตัวน้ำเชื่อมต่อ

ส่วนผสมเพิ่มเติมสำหรับทำไซรัป ที่สำคัญคือตัวน้ำเชื่อมเมเปิ้ล

 

 

นอกจากนี้ ยังมีการปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้นด้วย โดยได้ใส่น้ำมะนาวเหลือง และซอสวานิลาอีกด้วย

 

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับเมเปิ้ลไซรัป

 

ตัวขนมปังก็ปิ้งเสร็จแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการจัดจาน

 

 

 

ในขั้นตอนนี้ จะเป็นการจัดอาหารให้มีความสวยงามน่ากิน โดยใส่เครื่องปรุงเช่น วิปครีม ไอศกรีม ผลไม้ต่างๆ ชีส

 

ออกมาเป็น Maple Cheese Toast แล้ว

 

รูปร่างดูน่ากินมาก

 

ก็สามารถราดเมเปิลไซรับเพิ่มความอร่อย

 

อาหารพร้อมรับประทานแล้ว

 

ถือว่ารสชาติอร่อยเลยทีเดียว และถ้าดูดีๆ ขั้นตอนไม่ยาก สามารถทำทานเอง หรือทำเพื่อขายในร้านอาหารได้สบายๆ

 

อีกเมนูหนึ่ง ผมเลือกเมนูที่เบสิก อย่าง Spaghetti Carbonara สำหรับ 1 คน

 

จะเห็นได้ว่า สถาบันนี้ก็มีพวกอาหารคาวสอนด้วยเช่นกัน

 

โดยปกติ ผมจะทำโดยใช้ของสำเร็จรูปเป็นหลัก ก็เลยอยากทราบว่า ถ้าทำแบบไม่ใช้ของสำเร็จรูปแล้ว จะเป็นอย่างไร

 

 

เครื่องปรุงการทำโดยพื้นฐาน

 

 

การปรุงจริงๆ ใช้ Garlic Salt ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

 

แต่อาจารย์ก็เสนอแนะว่า เราก็สามารถปรับสูตรต่อยอดได้ตามใจชอบได้ เช่นมีการทำแบบซอสต้มยำ โดยการใส่ผงต้มยำเพิ่มด้วยก็มี

 

เริ่มต้นจากการผัดเบคอน จนกว่าจะสุก และมีน้ำมันออกมา ส่วนน้ำมันมะกอกจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้

 

เอาเส้นที่ลวกแล้ว ใส่ลงไป

 

เส้นแต่ละยี่ห้อก็คล้ายๆ กัน ต่างกันตรงเวลาในการต้ม ซึ่งจะมีบอกในฉลากข้างซองแล้ว

 

ทั้งนี้การต้ม จะต้องใส่เกลือลงไปด้วย

 

เมื่อต้มแล้วก็นำไปล้างน้ำผ่านๆ แล้วใส่น้ำมันมะกอกเพื่อกลิ่น เงา และเส้นไม่ติด  โดยจะแรพแล้วเก็บในตู้เย็นก็ได้

 

ผสมซอส ซึ่งหลักๆ ก็เป็นวิปครีมและไข่แดง

 

วิปครีมใช้ของแมกโนเลีย ที่มีความเข้มข้นกว่า

 

ใส่ลงไป ให้พอท่วมเส้น แล้วคลุกให้เข้ากัน

 

ขั้นตอนปรุง ก็ปรุงตามใจชอบ เช่น การใช้ผักชีฝรั่ง

 

 

ใส่จาน

 

 

โรยตบแต่งเล็กน้อย

 

 

เสร็จแล้ว สปาเกตตี้คาโบนารา

 

รสชาติครีมเข้มข้น เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยาก สามารถดัดแปลงได้หลากหลาย

 

หากต้องการเข้มเพิ่ม สามารถใส่ไข่แดงเพิ่มในซอส หรือจะแปะตรงสปาเกตตี้ก็ย่อมได้

 

 

 

 

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มบานอฟฟี่แสนเข้มข้นมาก อันนี้ก็มีสอนในสถาบันเช่นกัน

 

โดยสรุปคือ เป็นสถาบันสอนทำอาหาร ที่เน้นการสอนเพื่อทำประกอบอาชีพร้านอาหารต่างๆ โดยเฉพาะพวกของหวานที่มีสอนหลายเมนู นอกจากนี้ ยังมีสอนอาหารคาวสำหรับพวกร้านแนวคาเฟ่อีกด้วย

 

ครูสอนสอนแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน เราสามารถพูดคุยและสอบถามได้ตลอดเวลา บางขั้นตอนครูก็จะทำเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เราปฏิบัติตาม

 

ส่วนรสชาติที่ออกมา เรียกได้ว่าอร่อยถูกปากแน่นอน

 

 

ใครสนใจก็เข้าดูรายละเอียดและสอบถามได้ในเว็บ https://www.sweetscottage.com/ หรือเฟสบุค https://www.facebook.com/sweetscottage/

 

Facebook Comments

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *