Copper Buffet ยุค 2021 กับร้านบุฟเฟ่ต์ที่ยังคงความคุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง

หากมาลิสร้านบุฟเฟ่ต์ที่น่าสนใจ ผมว่าต้องมีร้าน Copper Buffet รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอนครับ

จะเห็นได้จาก การจองคิว ซึ่งบางจังหวะต้องจองกันล่วงหน้าสัปดาห์นึง จำนวนคนที่มาทานเยอะ การบอกปากต่อปาก และการรีวิวจากผู้ไปทานมาจริง ซึ่งส่วนใหญ่ก็แนะนำครับ

มาดูกันว่าในปี 2021 ยุคที่ร้านอาหารต้องดิ้นรนกับสถานการณ์ COVID19 ร้านนี้เป็นอย่างไร

การมาทานที่ร้าน จะต้องจองล่วงหน้าผ่าน LINE ของร้าน และ Hungryhub และมีการมัดจำครึ่งนึงครับ
ทั้งนี้หากจะใช้บัตรสมาชิกในการลดราคา 10% จะต้องมัดจำโดยการโอนเท่านั้น (ถ้าใช้การตัดบัตรเครดิต จะลด 5%)

สเตปการเข้าร้านที่ผมไปทานวันนั้น คือ

• ตรวจอุณหภูมิกับล้างมือ
• แจ้งเบอร์จองและรับเบอร์โต๊ะ
• นั่งรอหน้าร้าน รอเดินเข้าเป็นแถวตอนเรียง 1

ซึ่งการกันโรคคือดีแน่ๆ แต่การคุยอาจลำบากหน่อย ไม่ค่อยได้ยินเสียง

เมนูหลักที่คนมากินเยอะ

ถ้าดูเพจรีวิว หรือที่คนบอกต่อกันเยอะๆ บวกกับความรู้สึกส่วนตัว ก็สรุปเมนูที่คนสั่งบ่อยๆ ได้ดังนี้

ตัวรสซุบเห็ดเข้มข้น หอมมัน กลิ่นทรัฟเฟิลชัดเจน ถ้ากินพร้อมขนมปังกระเทียมจะฟินมาก (ขนมปังกระเทียมอันนี้อร่อยจริงๆ ครับ)

การจะดูว่ากุ้งสดหรือไม่ ดูแค่การแกะก็รู้คร่าวๆ แล้วครับ หากแกะง่ายและเนื้อไม่ลุ่ย นั่นแหละ กุ้งที่กินได้เพลินและอร่อย และอย่าลืมกินมันกุ้งฉ่ำๆ ตรงหัวกุ้งด้วย ซึ่งร้านนี้ถือว่าทำได้ดีมากครับกับคุณภาพความสดของกุ้งและการเผากุ้งได้ระดับพอเหมาะพอดี

ทั้งนี้ จากการผมกินหลายมื้อ ก็มีแจ็กพอตเจอเนื้อลุ่ยบ้าง ซึ่งทางร้านก็รับฟังในคอมเมนต์ด้วยครับ

สเต็กเนื้อวากิว ก็เป็นเมนูที่สั่งกันเยอะครับ โดยมีความสุกให้เลือก 5 ระดับตามความชอบ ซึ่งปกติถ้าต้องการความฉ่ำนุ่มกำลังดี ก็มีเดียมแรห์น่าจะเหมาะ

ทั้งนี้ การสั่งระดับแบบดิบมาก (Rare / blue rare) ทานได้แน่ๆ แต่อาจมีหลงเหลือส่วนพังผืดหรือเอ็น จึงอาจเหนียวกว่าการสั่งความสุกระดับอื่น

เกาเหลาเนื้อวากิว ก็เป็นเมนูที่แนะนำเช่นกัน ด้วยความฉ่ำนุ่มลิ้นของเนื้อวากิวสไลด์ ซุบรสเข้ม ถ้าสั่งน้ำตกด้วยก็เพิ่มความนัวมากขึ้น

ปกติสูตรที่ผมสั่งประจำคือ เกาเหลาน้ำตก เนื้อวากิว2แพ ไม่ใส่เนื้อเปื่อย ใส่ไข่ด้วย

ปล. มีเกาเหลาหมูด้วยนะครับ สำหรับคนไม่กินเนื้อวัว

หอยนางรมก็เป็นเมนูที่น่าสนใจ ด้วยความที่กินง่าย (มาก) คือแทบไม่มีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์เลย จึงทำให้ทานง่ายมาก ยิ่งกินกับพวกพริกเผา น้ำจิ้มซีฟู้ด หอมแดง คือเข้ากันอย่างดี

ตามปกติร้านจะเสริฟหอยนางรมสุราษฎร์ธานี แต่ก็มีบางช่วงที่เป็นหอยชนิดอื่น (จากฤดูการของหอยนั้นๆ)

เครื่องดื่มก็เป็นสิ่งที่ทั้งคนมากินและทางร้านแนะนำ โดยเฉพาะชานม ซึ่งออกมาจากเครื่อง Cold Brew จึงมีฟองที่มีความนุ่ม หวานหอมมัน (ให้สะใจต้องกินแบบไม่ใช้หลอด)

เมนูที่ไม่อยากให้พลาด

ตัวซาชิมิ ก็ถือว่าน่าสนใจ โดยมีให้เลือก 6 อย่าง (ข้อมูล ณ วันที่ไปทาน) ปกติผมจะสั่งแบบรวมครับ ได้ความหลากหลายดี

ในมุมซูชินั้น มีให้เลือกเยอะครับ ส่วนใหญ่ก็จะสั่งซูชิวากิว ซูชิแซลม่อน เป็นหลักกัน แต่ตัวผม ผมชอซูชิปลากะพงทะเลมากสุด
สาเหตุคือ เนื้อปลากะพงรสชาติไม่หนักมาก ทานง่าย มีความหนึบหนับ เสริมรสด้วยฟุริคาเกะด้านบน จึงเป็นเมนูที่ผมชอบและทานได้เรื่อยๆ

ตระกูลสปาเกตตี้ผัดแห้ง เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดครับ ทั้งความแข็งของเส้นกำลังดี รสชาติอร่อยทานง่าย กระเทียมที่เสริมรสชาติของสปาเกตตี้ อยากให้ลองดู

เส้นแองเจิลคือเส้นที่เล็กมาก จึงทำให้ทานง่ายและเพลิน โดยเมนูนี้จะทำการผัดกับซอสเห็ดทรัฟเฟิล (เบสแนวๆซุบเห็ดทรัฟเฟืล) และมีการขูดชีสวิวไปผสมด้วย จึงทำให้มีความเข้มชีสสะใจจริงๆ

เมนูนี้สำหรับคนที่อยากลองเส้นหมึกดำ(ที่เลอะปากง่ายมาก) ใครไม่เคยลองก็น่าลองนะครับ

เมนูนี้พึ่งเพิ่มขึ้นมาไม่นานครับ (เดิมผมไม่รู้ว่ามีเมนูนี้ในบุฟเฟ่ต์ แต่เพื่อนทักมา เลยเบิกเนตรเลย) แน่นอนสำหรับสายชีส และชอบหอยเชลล์ คือต้องลุยกับเมนูนี้

เมนูบางอย่างที่อยากให้รู้ถึงรสชาติ

เอาจริงๆนะครับ ร้านนี้จะมีไลน์บุฟเฟ่ต์ที่เป็นข้าวราดต่างๆ ซึ่งบางคนไม่สนใจ (อาจเพราะคิดว่าหากินข้างนอกง่าย กลัวหนักท้อง ไม่คุ้มราคา ฯลฯ)

แต่นี่แหละครับ ของดี โดยเฉพาะที่ผมสั่งมาครับ ข้าวไข่พะโล้กับขาหมูพะโล้ ซึ่งไข่พะโล้ได้ความสุกพอเหมาะ ตัวเนื้อและหนังของหมูมาเป็นชิ้นๆ สวยงาม

ในไลน์นี้ก็มีเมนูอื่นๆ เช่นแกงเขียวหวาน ไส้กรอก ยำปลาดอลลี่ ฯลฯ เหมาะกับทานกับข้าวได้

ตอน Copper Buffet มาใหม่ๆ พวกเมนูทอดที่ดังสุด ก็จะเป็นกุ้งเทมปุระครับ แต่ปัจจุบันนอกจากกุ้มเทมปุระแล้ว ยังมีปลากะพงทอดน้ำปลา และกุ้งทอดครีมชีสด้วย แน่นอนว่าดีทั้งสาม

โดยส่วนตัวถ้าเทียบสามอย่าง ตอนนี้ชอบกุ้งทอดครีมชีสสุดครับ เพราะผมเป็นสายชอบกินชีส (…..)

สเต็กปลามากุโร ก็เป็นหนึ่งในเมนูที่น่าสนใจ ด้วยความที่รสชาติเบา ทานง่าย ด้านในยังคงความสดของปลา เมนูนี้ถือว่าทานได้ง่าย ไม่หนักจนเกินไป รสชาติดีด้วย

ถ้าสรุปง่ายๆ คือสะโพกไก่ที่รสชาติแนวๆบาบีคิว (คิดถึงอารมณ์ไก่นิวออลีนของพิซซ่าไว้) แต่มาแบบชิ้นสะใจ รสชาติเข้มข้น แค่นี้ก็เพียงพอในการลองแล้ว

เมนูนี้แน่นอนว่า เข้มข้นสไตล์ไทย เนื้อปูแบบเนื้อปูจริงๆ ใบชะพลูอร่อยและเข้ากับตัวแกงได้ นี่ก็น่าสนใจ

ของหวานที่ยังคงหลากหลาย

ไม่ต้องบอกเนอะ เมนูนี้ สายคัสตาร์ดไม่ควรพลาด

ถ้าคิดรถชาติไม่ออก ก็คิดภาพแนวบัวลอยครับ แต่ไม่ได้หวานจนเกินไป ทานแบบอุ่นๆ เพลินๆ

รสชาติกาแฟเข้มข้น เวลากินก็กินกับซอสกับเครื่องเคียง

อันนี้รสจะต่างจากแบบกาแฟ เนื้อเน้นนุ่มๆ เบาๆ ดังนั้นก็เพิ่มรสชาติโดยการทานกับเครื่องเคียงเช่นกัน

ไอศกรีมที่นี่ก็น่าสนใจครับ (ผมไม่แน่ใจว่าทำเองไหม แต่ผมรู้สึกว่าเค้าทำเอง เพราะรสชาติดีและแตกต่างจากที่อื่นๆ)

เมนูพิเศษหละ อะไรน่าสนใจ

เมนูพิเศษ คือเมนูที่จะจำกัดจำนวนการสั่ง (คนละเมนู หรือสองคนต่อเมนู) โดยจะต้องมีบัตรสมาชิกหรือเลือกโปรโมชั่นที่กำหนดจาก Hungry Hub ครับ

ฟัวกราที่นี่ คุณภาพดีมาก ทานง่าย ซอสดี (หรือจะกินกับเกลือก็ได้)

สำหรับคนชอบความสะใจ นี่คือฟัวกรากับเนื้อวากิว กินพร้อมกัน ได้ทั้งรสฉ่ำเนื้อ รสนัวของฟัวกรา และซอสเข้มข้น เข้ากันได้ดี

เมนูนี้ ผมถือว่าชอบมากสุดในบรรดาเมนูพิเศษครับ ด้วยตัวกุ้งหวานกรอบ ทานง่าย(มาก)

โปรโมชั่นที่มาเป็นระยะๆ

ผมไปช่วงที่มีโปรโมชั่นเมนูพิเศษมีเสต็กแกะด้วยครับ (ราวกุมภา) ซึ่งร้านนี้ทำแกะได้ดีมาก กลิ่นเฉพาะตัวน้อยมากๆ จึงทานง่าย

เมื่อประมาณ มกรา ก็มีโปรโมชั่นช่วงวันธรรมดา คือฟัวกราไม่อั้น (ต้องมีบัตรสมาชิก) ซึ่งถือว่าคุ้มที่สุดเท่าที่ผมกินร้านนี้มาแล้วครับ

โดยสรุป ร้านนี้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่เรียกได้ว่า คุ้มค่าและครบครันกับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งประเภทอาหารที่น่าจะครอบคลุมได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การบริการที่ดี รสชาติดีมีคุณภาพ ทำให้ร้านนี้มีคนมาทานเยอะมาก จนต้องจองคิวกันล่วงหน้าเลย

Dunbine [H.E.A.T]