Schwedakong Land ร้านของบังก้อง เปิดใหม่ย่านแยกปทุมวัน
|ชื่อ Schwedakong ชื่อนี้บางคนน่าจะคุ้นตา โดยเฉพาะใครที่เคยเล่นพันทิปในช่วง 10 ปีที่แล้ว น่าจะจำได้
คนนี้คือคนที่เก่งเกี่ยวกับเรื่องอาหาร ทั้งเกี่ยวกับความรู้ การทำอาหาร เรื่องรสชาติต่างๆ โดยหลักๆ เกิดจากการค้นคว้าหาความรู้ การลองผิดลองถูกหลายๆ ครั้ง จนได้อาหารในสไตล์ของตัวเอง
โดยทางบังก้อง (ชื่อนิคเนม ซึ่งไม่ได้เป็นแขกซิกข์ ไม่ได้เป็นอิสลาม ทานหมูได้ปกติ) ก็เคยทั้งสอนทำอาหาร การทำเชฟเทเบิล การขายอาหาร ขายข้าวกล่อง
มาในปีนี้ วันนี้ ทางก้องก็ได้เปิดร้านอาหารอย่างเป็นทางการ ซึ่งตำแหน่งอยู่ย่านแยกปทุมวันนี่เองครับ
ซึ่งปกติแล้วจะเปิดราวเที่ยงถึงสองทุ่ม หยุดวันพุธและอาทิตย แต่ทั้งนี้เวลาอาจไม่แน่นอน สามารถดูว่าร้านเปิดหรือไม่ ได้ที่เพจของบังก้อง
https://www.facebook.com/SchwedaKong
นอกจากนี้ เมนูอาหารต่างๆ แต่ละวันก็อาจไม่แน่นอน ซึ่งก็สามารถตามที่เพจนี้ได้เช่นกัน
เนื่องจากแต่ละเมนูมีจำกัด และที่นั่งก็มีจำกัดด้วย ดังนั้นจึงควรโทรเพื่อนัดหมายเวลาและบอกเมนูที่ต้องการทาน เพื่อให้บังก้องจะได้เตรียมพร้อมได้ครับ
(อันนี้สำคัญ)
เนื่องจากผมไปทานมาสองรอบแล้ว จึงนำเรื่องราวการรีวิวมาฝากครับ
ดู H.E.A.T. Point. ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
ตำแหน่งในแผนที่ เมื่อถึง BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ก็ใช้คำว่า “Schwedakong Land” ก็จะปรากฎหมุดครับ (ทั้งนี้ถ้าไม่ได้อยู่ในโซนนี้ แสดงว่าเป็นร้านเก่าที่เอกชัยครับ อย่าไปหละกัน)
ในร้านจะมีที่นั่งเพียงไม่กี่ที่นั่งครับ เพื่อความชัวร์ ควรโทรไปเพื่อสอบถามก่อนมานะครับ
อันนี้รสหอมหวาน ดีอยู่ครับ
อันนี้คือน้ำครีมโซดาที่เรียกได้ว่า ครีมโซดาจริงๆ (นึกภาพ ก็ราวไอติมวานิลาผสมกับโซดา) ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ได้คุยกับบังก้องประเด็นนี้เหมือนกัน ก็ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอยู่ (เช่นทำไมน้ำเขียวของไทยไปเรียกว่าครีมโซดา)
ไข่วัว ก็ตรงตามตัวครับ คือไข่ของวัว (อัณทะวัว) ซึ่งจะมีขายสองแบบ คือมาแบบลองจานเดียว หรือเป็นข้าวหน้า
ถ้าถามรสชาติ เอาจริงๆนะ ไม่ได้มีกลิ่นอะไรไม่พึงประสงค์เลย อารมณ์หนึบๆ คล้ายๆ ลูกชิ้นปลา
แต่ก็นะ ใครใจกล้าอยากลอง ลุยครับ
ข้าวมันเนื้อของบังก้องคือดีครับ เนื้อนุ่ม ข้าวมันอร่อย กับเครื่องเคียงต่างๆ
ผมเคยไปเรียนทำอาหารคอร์สที่บังก้องสอนมาครับ เลยทราบว่าแกงกะหรี่ที่อร่อย ไม่ได้แค่ว่าใช้ก้อนแกงกะหรี่คือจบนะครับ เค้าต้องมีการใส่เครื่องเทศ เครื่องปรุงต่างๆ เพื่อดึงรสชาติและความจัดจ้านออกมาเพิ่มอีก ซึ่งแน่นอนว่ามีในเมนูนี้ด้วย ประกอบกับเนื้อนุ่มๆ กินแล้วฟินกันยาวๆ
แน่นอนว่าก็เป็นเมนูที่บังก้องปรุงได้รสชาติที่อร่อยเฉพาะตัว ใบกะเพราะมาเน้นๆ
เมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เนื่องจากปกติบังก้อง ก็จะมีเมนูแปลกๆ หรือไหม่ๆ ขายเช่นกัน ซึ่งสามารถถามจากบังก้องที่ร้านว่ามีไหม ซึ่งผมก็ได้กินสองเมนู (ในสองวัน) นั่นคือ
บังก้องบอกว่าเป็นเต้าหู้ที่ทำโดยชาวไทยใหญ่ครับ เอาง่ายๆเลย ส่วนรสชาติ ผมรู้สึกว่ามีกลิ่นเต้าหู้เฉพาะตัวออกมาชัดกว่าทั่วๆไป (ใครเคยกินเต้าหู้เหม็นก็น่าจะสัมผัสกลิ่นนี้ได้ดี) แต่ที่ต่างจากเต้าหู้เหม็นคือ กลิ่นที่บางกว่า และทานง่ายกว่ามากครับ
วันนั้นบังเอิญก้องก็มีวัตถุดิบที่น่าสนใจครับ นั่นคือหอย และพวกเป็ดอบแห้ง ซึ่งผมก็ขอสั่งเพิ่มด้วย ทำได้ได้รับรสชาติใหม่ๆ จากวัตถุดิบเหล่านี้ด้วย
ทั้งนี้ วันอื่นๆ ก็อาจไม่ได้มีเมนูพวกนี้นะครับ
สองขวดนี้คือซอสปรุงรส (ซีอิ้ว) ของจีน มีสองสูตร ซึ่งมีรสชาติและกลิ่นแตกต่างกัน
ทั้งนี้หากศึกษาพวกประวัติของซอส ก็น่าสจใจมากครับ เพราะรสแนวนี้เราพบได้ทั้งในไทย ในมาเล ในอินโด หรือแม้แต่ญี่ปุ่นเอง แต่รสและกลิ่นก็แตกต่างกันตามวัตถุดิบและราคาครับ